Prompt Engineering
AI
ChatGPT
สอน AI
เทคนิค

Prompt Engineering: ศิลปะการสอน AI ให้ทำงานตามที่ต้องการ

เจาะลึกเทคนิค Prompt Engineering ขั้นสูง พร้อมกรอบความคิด frameworks และตัวอย่างจริงที่นำไปใช้ได้ทันที

AI Unlocked Team
22/01/2568
Prompt Engineering: ศิลปะการสอน AI ให้ทำงานตามที่ต้องการ

Prompt Engineering: ศิลปะการสอน AI ให้ทำงานตามที่ต้องการ

Prompt Engineering คือทักษะที่กำลังกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่มีค่าที่สุดในยุค AI การเขียน Prompt ที่ดีสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์จาก AI จาก "พอใช้" เป็น "ยอดเยี่ยม" ได้ในพริบตา

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเทคนิคและกรอบความคิดต่างๆ ที่จะทำให้คุณเป็น Prompt Engineer ที่เก่งขึ้น

Prompt Engineering คืออะไร?

Prompt Engineering คือศาสตร์และศิลปะของการออกแบบคำสั่ง (Prompts) ให้กับ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

ทำไม Prompt Engineering จึงสำคัญ?

  • คุณภาพผลลัพธ์: Prompt ที่ดีให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  • ประหยัดเวลา: ลดการทดลองซ้ำๆ จนกว่าจะได้ผลที่ต้องการ
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: ใช้ token น้อยลงเพื่อให้ได้ผลเดียวกัน
  • ควบคุมได้: สามารถควบคุมทิศทางและรูปแบบของผลลัพธ์

องค์ประกอบของ Prompt ที่ดี

Prompt ที่มีประสิทธิภาพควรประกอบด้วย:

1. บทบาท (Role)

กำหนดบทบาทให้ AI ทำงานในฐานะใด

❌ ไม่ดี: "เขียนบทความเกี่ยวกับ SEO"

✅ ดี: "คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ SEO ที่มีประสบการณ์ 15 ปี
เขียนบทความเกี่ยวกับ 'SEO in 2025' สำหรับนักการตลาดดิจิทัล"

2. บริบท (Context)

ให้ข้อมูลพื้นหลังที่จำเป็น

บริบท: เว็บไซต์ของเราเป็น E-commerce ขายเสื้อผ้าแฟชั่น
กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงวัย 25-40 ปี ที่มีกำลังซื้อปานกลาง-สูง

3. คำสั่ง (Instruction)

ระบุสิ่งที่ต้องการให้ทำอย่างชัดเจน

คำสั่ง: สร้างแคมเปญอีเมลการตลาด 3 ฉบับ
แต่ละฉบับมีหัวข้อที่น่าสนใจ เนื้อหาไม่เกิน 150 คำ
และมี CTA ที่ชัดเจน

4. ข้อจำกัด (Constraints)

กำหนดขอบเขตและเงื่อนไข

ข้อจำกัด:
- ความยาวไม่เกิน 500 คำ
- ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง ไม่เป็นทางการเกินไป
- ต้องมีข้อมูลอ้างอิงหรือสถิติประกอบ
- หลีกเลี่ยงศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อน

5. รูปแบบผลลัพธ์ (Output Format)

กำหนดโครงสร้างของคำตอบ

รูปแบบผลลัพธ์:
# หัวข้อหลัก

## จุดเด่น 3 ข้อ
1. ...
2. ...
3. ...

## รายละเอียด
(เนื้อหาหลัก)

## สรุปและ Call-to-Action

6. ตัวอย่าง (Examples)

ให้ตัวอย่างที่ต้องการ (Few-Shot Learning)

ตัวอย่าง Post ที่ต้องการ:

"🎉 พิเศษสุด! ลดสูงสุด 50%
👗 เสื้อผ้าแฟชั่นชิ้นใหม่ล่าสุด
🛍️ สั่งวันนี้ รับฟรีค่าจัดส่ง
⏰ เฉพาะ 3 วันนี้เท่านั้น!
🔗 [Link]"

สร้าง Post แบบนี้ให้อีก 5 รูปแบบ

กรอบความคิดและเทคนิคขั้นสูง

1. Chain-of-Thought (CoT) Prompting

เทคนิคนี้ช่วยให้ AI คิดเป็นขั้นเป็นตอน เหมาะกับงานที่ซับซ้อน

❌ แบบปกติ:
"ถ้าฉันมีงบ 100,000 บาท ควรลงโฆษณาช่องทางไหนดี?"

✅ แบบ Chain-of-Thought:
"ฉันมีงบโฆษณา 100,000 บาท สำหรับร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์
กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงวัย 25-35 ปี

ช่วยวิเคราะห์และแนะนำการจัดสรรงบโดย:
1. วิเคราะห์ช่องทางโฆษณาที่เหมาะสม (Facebook, Instagram, Google, TikTok)
2. ประเมินจุดแข็ง-จุดอ่อนของแต่ละช่องทาง
3. แนะนำการแบ่งงบพร้อมเหตุผล
4. ประมาณการ KPI ที่คาดว่าจะได้
5. สรุปและข้อแนะนำเพิ่มเติม"

2. Tree-of-Thought (ToT) Prompting

เทคนิคให้ AI สำรวจหลายทางเลือกพร้อมกัน

"เสนอ 3 กลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันสำหรับเปิดตัวสินค้าใหม่

สำหรับแต่ละกลยุทธ์ให้:
1. อธิบายแนวคิดหลัก
2. ระบุข้อดี-ข้อเสีย
3. ประเมินโอกาสความสำเร็จ (1-10)
4. ประมาณการงบประมาณที่ต้องใช้

จากนั้นแนะนำว่าควรเลือกกลยุทธ์ใด พร้อมเหตุผล"

3. ReAct (Reasoning + Acting) Prompting

ให้ AI คิด (Reason) แล้วทำ (Act) สลับกันไป

"วิเคราะห์ปัญหาของเว็บไซต์ต่อไปนี้:
[ข้อมูลเว็บไซต์]

ใช้ ReAct Pattern:
1. Thought: สังเกตและวิเคราะห์ปัญหา
2. Action: เสนอการแก้ไขที่เป็นไปได้
3. Observation: ประเมินผลกระทบของการแก้ไข
4. Repeat: ถ้ายังมีปัญหา ให้วนกลับไปทำใหม่

วนซ้ำจนกว่าจะแก้ปัญหาได้หมด"

4. Self-Consistency Prompting

ให้ AI สร้างคำตอบหลายแบบแล้วเลือกที่ดีที่สุด

"สร้างหัวข้อบทความ 10 แบบสำหรับหัวข้อ 'AI in Healthcare'

จากนั้น:
1. ประเมินแต่ละหัวข้อด้วย SEO score (1-10)
2. ประเมินความน่าสนใจสำหรับผู้อ่าน (1-10)
3. ประเมินความเป็นไปได้ในการเขียน (1-10)
4. เลือก Top 3 พร้อมอธิบายเหตุผล"

5. Emotion Prompting

เพิ่มอารมณ์และแรงจูงใจใน Prompt

"นี่เป็นงานที่สำคัญมากสำหรับอาชีพการงานของฉัน
กรุณาใช้ความเชี่ยวชาญทั้งหมดของคุณช่วยวิเคราะห์..."

"ฉันต้องการคำตอบที่ดีที่สุด เพราะเป็นไปเพื่อช่วยคนอื่นๆ
โปรดใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดของคุณ..."

งานวิจัยพบว่า Emotion Prompting สามารถเพิ่มคุณภาพคำตอบได้ถึง 8-10%!

เทคนิคขั้นสูงเฉพาะทาง

สำหรับงานเขียน Content

Template: AIDA Framework

สร้างเนื้อหาโฆษณาสินค้า [ชื่อสินค้า] โดยใช้ AIDA Framework:

A (Attention):
- สร้างหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจ
- ใช้สถิติหรือคำถามที่กระตุ้นความสนใจ

I (Interest):
- นำเสนอปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายเผชิญอยู่
- แสดงให้เห็นว่าสินค้าเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างไร

D (Desire):
- ยกผลประโยชน์ที่จะได้รับ
- ใช้ social proof หรือ testimonial

A (Action):
- CTA ที่ชัดเจนและกระตุ้นให้ดำเนินการทันที
- สร้าง sense of urgency

โทนภาษา: [ระบุโทน]
ความยาว: [ระบุความยาว]

สำหรับงานวิเคราะห์

Template: SWOT Analysis

วิเคราะห์ SWOT สำหรับธุรกิจ/โปรเจค [ชื่อ]:

ข้อมูล:
[ข้อมูลธุรกิจ]

ให้วิเคราะห์:
1. Strengths (จุดแข็ง): อย่างน้อย 5 ข้อ
2. Weaknesses (จุดอ่อน): อย่างน้อย 5 ข้อ
3. Opportunities (โอกาส): อย่างน้อย 5 ข้อ
4. Threats (อุปสรรค): อย่างน้อย 5 ข้อ

จากนั้นเสนอ:
- กลยุทธ์ SO (ใช้จุดแข็งเพื่อคว่ำโอกาส)
- กลยุทธ์ WO (แก้จุดอ่อนเพื่อใช้โอกาส)
- กลยุทธ์ ST (ใช้จุดแข็งเพื่อจัดการกับอุปสรรค)
- กลยุทธ์ WT (แก้จุดอ่อนและหลีกเลี่ยงอุปสรรค)

สำหรับงานสร้างสรรค์

Template: SCAMPER Method

ใช้ SCAMPER เพื่อพัฒนาไอเดียสินค้า [ชื่อสินค้า]:

S (Substitute): เปลี่ยนส่วนประกอบอะไรได้บ้าง?
C (Combine): รวมกับอะไรได้บ้าง?
A (Adapt): ปรับให้เข้ากับอะไรได้บ้าง?
M (Modify): ดัดแปลงอย่างไรได้บ้าง?
P (Put to other uses): ใช้ในทางอื่นได้ไหม?
E (Eliminate): ตัดอะไรออกได้บ้าง?
R (Reverse/Rearrange): กลับด้านหรือจัดเรียงใหม่ได้ไหม?

สำหรับแต่ละหัวข้อ ให้เสนอ 3-5 ไอเดีย
จากนั้นเลือก Top 3 ไอเดียที่น่าสนใจที่สุดพร้อมอธิบายเหตุผล

กรณีศึกษา: ปรับปรุง Prompt แบบ Step-by-Step

ตัวอย่างที่ 1: เขียนโพสต์ Social Media

ระดับมือใหม่ 😕

เขียนโพสต์ Facebook เกี่ยวกับการลดราคา

ปรับปรุงครั้งที่ 1 🙂

เขียนโพสต์ Facebook โปรโมทการลดราคา
สำหรับร้านขายเสื้อผ้า ลด 30% ทุกชิ้น

ปรับปรุงครั้งที่ 2 😊

คุณเป็น Social Media Manager มืออาชีพ
เขียนโพสต์ Facebook สำหรับร้านเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิง
โปรโมชั่น: ลด 30% ทุกชิ้น วันนี้-อาทิตย์นี้
ความยาว: 50-80 คำ
โทน: สนุก กระตือรือร้น ใช้อิโมจิ
CTA: ชัดเจน กระตุ้นให้คลิกลิงก์

Professional Level 🌟

Role: คุณเป็น Senior Social Media Manager ที่เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น

Context:
- ร้านเสื้อผ้าผู้หญิงสไตล์เกาหลี
- กลุ่มเป้าหมาย: ผู้หญิงวัย 22-35 ปี ชอบแฟชั่นทันสมัย
- แบรนด์ Tone: Modern, Friendly, Approachable
- ยอด Engagement เฉลี่ย: 2-3%

Task: สร้างโพสต์ Facebook 3 รูปแบบสำหรับโปรโมชั่น:
"Flash Sale 30% OFF ทุกชิ้น | เฉพาะ 3 วันนี้ 24-26 ม.ค. 2025"

Requirements:
- แต่ละโพสต์มีจุดเด่นต่างกัน (Urgency / FOMO / Value)
- ความยาว 60-100 คำ
- ใช้ 3-5 อิโมจิที่เกี่ยวข้อง
- มี Hashtag 3-5 ตัว
- CTA ที่แตกต่างกัน

Output Format:
=== รูปแบบที่ 1: [ชื่อ Strategy] ===
[โพสต์]

Rationale: [อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงน่าจะได้ผลดี]
Expected Engagement: [%]

[ทำซ้ำสำหรับรูปแบบที่ 2 และ 3]

สุดท้าย: แนะนำว่าควรใช้รูปแบบไหนตามสถานการณ์ใด

ตัวอย่างที่ 2: สร้างกลยุทธ์การตลาด

ระดับมือใหม่ 😕

วางแผนการตลาดให้ร้านกาแฟ

ปรับปรุงครั้งที่ 1 🙂

วางแผนการตลาดออนไลน์สำหรับร้านกาแฟใหม่
งบ 50,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน

ปรับปรุงครั้งที่ 2 😊

สร้างแผนการตลาดดิจิทัลสำหรับร้านกาแฟใหม่ในเชียงใหม่
กลุ่มเป้าหมาย: นักท่องเที่ยวและคนทำงาน Co-working
งบประมาณ: 50,000 บาท
ระยะเวลา: 3 เดือนแรก
แบ่งแผนตาม: ช่องทาง / เนื้อหา / งบประมาณ / KPI

Professional Level 🌟

Role: คุณเป็น Marketing Strategist ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ F&B

Context:
ธุรกิจ: ร้านกาแฟพรีเมียม "Brew & Chill Café"
ที่ตั้ง: นิมมาน เชียงใหม่
USP:
- เมนูกาแฟพรีเมียมจากเมล็ดกาแฟเชียงใหม่
- มี Co-working space
- บรรยากาศมินิมอล Instagram-worthy

กลุ่มเป้าหมาย (3 กลุ่มหลัก):
1. Digital Nomads & Remote Workers (30%)
2. นักท่องเที่ยว (40%)
3. คนท้องถิ่น (30%)

Constraints:
- งบประมาณ: 50,000 บาท (3 เดือนแรก)
- ทีม: 1 Social Media Manager, ไม่มีงบจ้างเอเจนซี่
- ต้องการยอดขายเฉลี่ย 150 แก้ว/วัน ภายใน 3 เดือน

Task: สร้าง 90-Day Digital Marketing Plan แบบละเอียด

ให้ครอบคลุม:
1. Overview & Goal Setting
   - SMART Goals
   - Key Metrics

2. Channel Strategy (แบ่งงบตามช่องทาง)
   - Instagram (Organic + Ads)
   - Facebook
   - Google My Business
   - TikTok (Optional)

3. Content Strategy
   - Content Pillars (4-5 หัวข้อหลัก)
   - Content Calendar (สัปดาห์ละกี่โพสต์)
   - Content Types & Formats

4. Monthly Breakdown
   - เดือน 1: [โฟกัสอะไร]
   - เดือน 2: [โฟกัสอะไร]
   - เดือน 3: [โฟกัสอะไร]

5. Budget Allocation
   - แบ่งตามช่องทาง
   - แบ่งตามประเภท (Ads / Content Creation / Tools)

6. KPIs & Success Metrics
   - ตัวชี้วัดแต่ละเดือน
   - วิธีการวัด

7. Risk & Mitigation
   - ความเสี่ยงที่อาจเจอและวิธีแก้

8. Quick Wins (30 วันแรก)
   - สิ่งที่ทำได้ทันทีและได้ผลเร็ว

Output Format: ใช้ Markdown พร้อม Tables และ Bullet Points ที่ชัดเจน

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้

❌ ผิดพลาด #1: Prompt คลุมเครือ

ผิด:

"ทำให้ดีขึ้น"

ถูก:

"ปรับข้อความนี้ให้:
1. ใช้ภาษาที่เป็นกันเองมากขึ้น
2. เพิ่มตัวอย่างจริงอย่างน้อย 2 ตัวอย่าง
3. ลดศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อน
4. เพิ่มหัวข้อย่อยเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น"

❌ ผิดพลาด #2: ขอมากเกินไปในคำสั่งเดียว

ผิด:

"สร้างแผนธุรกิจ วิเคราะห์ตลาด สร้างเว็บไซต์ และเขียน SEO Content"

ถูก:

"แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน:
1. ก่อนอื่นช่วยสร้าง Business Plan Outline
2. [หลังจากได้ Outline] วิเคราะห์ตลาดในแต่ละส่วน
3. [หลังจากได้ Market Analysis] วางโครงสร้างเว็บไซต์
4. [สุดท้าย] วางแผน SEO Content Strategy"

❌ ผิดพลาด #3: ไม่ระบุรูปแบบผลลัพธ์

ผิด:

"สรุปบทความนี้"

ถูก:

"สรุปบทความนี้ในรูปแบบ:
- หัวข้อหลัก (1 บรรทัด)
- จุดสำคัญ 5 ข้อ (แต่ละข้อไม่เกิน 1 ประโยค)
- Takeaway (1-2 ประโยค)
- คำแนะนำในการนำไปใช้ (2-3 ข้อ)"

❌ ผิดพลาด #4: ลืมให้บริบท

ผิด:

"เขียนอีเมลให้ลูกค้า"

ถูก:

"เขียนอีเมลถึงลูกค้าที่สั่งสินค้าไป แต่สินค้าหมด
บริบท: ลูกค้าสั่งชุดชั้นในสีแดงไซส์ M สินค้าหมดชั่วคราว จะมีเข้าใหม่ใน 5 วัน
โทน: ขออภัยอย่างจริงใจ มืออาชีพแต่เป็นกันเอง เสนอทางเลือก"

เครื่องมือช่วยเหลือ Prompt Engineering

1. Prompt Template Libraries

  • PromptBase: ซื้อ-ขาย Prompts ที่ใช้งานได้จริง
  • FlowGPT: ชุมชน Prompt Sharing
  • AI Prompt Genius: Chrome Extension สำหรับจัดการ Prompts

2. Prompt Testing & Optimization

  • PromptPerfect: ปรับปรุง Prompt อัตโนมัติ
  • Promptmetheus: ทดสอบและเปรียบเทียบ Prompts
  • OpenPrompt: จัดการและ Version Control สำหรับ Prompts

3. Learning Resources

  • Learn Prompting: คอร์สออนไลน์ฟรี
  • Prompt Engineering Guide (GitHub): เอกสารครบถ้วน
  • OpenAI Cookbook: ตัวอย่าง Prompts อย่างเป็นทางการ

Best Practices สำหรับ Prompt Engineering

✅ DO

  1. เริ่มจากง่ายไปยาก

    • ทดสอบ Prompt พื้นฐานก่อน
    • ค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อน
  2. ทดสอบหลายรอบ

    • ใช้ Prompt เดียวกันหลายครั้ง
    • เปรียบเทียบความสม่ำเสมอของผลลัพธ์
  3. เก็บ Prompt Library

    • สร้าง Template สำหรับงานที่ทำบ่อย
    • Document ว่า Prompt ไหนได้ผลดี
  4. Iterate และปรับปรุง

    • วิเคราะห์ว่าผลลัพธ์ผิดพลาดตรงไหน
    • ปรับ Prompt เพื่อแก้ปัญหานั้นๆ

❌ DON'T

  1. อย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบในครั้งแรก
  2. อย่าใช้ Prompt ยาวเกินไปโดยไม่จำเป็น
  3. อย่าลืมตรวจสอบผลลัพธ์
  4. อย่าแชร์ข้อมูลลับใน Prompt

สรุป: เส้นทางสู่ Prompt Engineering Master

การเป็น Prompt Engineer ที่เก่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้:

  1. ความเข้าใจพื้นฐาน: รู้ว่า AI ทำงานอย่างไร
  2. การฝึกฝน: ทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  3. ความคิดสร้างสรรค์: คิดนอกกรอบเพื่อหา Prompt ที่ดีที่สุด
  4. การเก็บบันทึก: เรียนรู้จากสิ่งที่ได้ผลและไม่ได้ผล

เริ่มฝึกฝนวันนี้ และคุณจะเห็นความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว! 🚀


พร้อมเป็น Prompt Engineer มืออาชีพแล้วหรือยัง?

สมัครเรียนคอร์ส Prompt Engineering ของเราได้ที่ AI Unlocked หรือดาวน์โหลด Prompt Template ฟรีได้เลย!


เขียนโดย

AI Unlocked Team

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ